ใครว่าเมืองไทยเรามีที่เที่ย… Read more “ชมพูพันธุ์ทิพย์ / ซากุระหน้าร้อนของเมืองไทย / นครปฐม”
หมวดหมู่: อัยรดา
เที่ยวให้ครบ / 10 จุด Check-in / สมุทรปราการ
หากใครมีวันว่างไม่มาก แล้วอยากไปเที่ยวต่างจังหวัดที่โคตรจะใกล้กรุงเทพเลย จังหวัดที่เรานึกถึงคงจะมีไม่กี่จังหวัด และหนึ่งในนั้น เเน่นอนว่าต้องเป็น สมุทรปราการ นั่นเอง
มารู้จัก “สมุทรปราการ”
“สมุทรปราการ” เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “เมืองปากน้ำ” เพราะตั้งอยู่ปลายสุดของแม่น้ำเจ้าพระยาและด้านเหนือของอ่าวไทย เป็นจังหวัดในเขตปริมณฑล ที่มีที่เที่ยวหลากหลายมาก ซึ่งตัวเมืองสมุทรปราการมีระยะทางห่างจากกรุงเทพฯเพียง 29 กิโลเมตรเท่านั้นเองค่ะ
ว่าแต่ “เมืองปากน้ำ” แห่งนี้จะมีอะไรให้เราไปฟิน หรือเช็คอินที่ไหนกันบ้าง
อย่ารอช้า … ตามไปดูกันเลยจ้าาาาาา
วัดบางพลีใหญ่กลาง
(วัดพระนอน)
วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของ “สมเด็จพระศากยมุณีศรีสุเมธบพิตร” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์หรือพระนอนใหญ่ที่สุดของประเทศไท มีขนาดความยาวตั้งแต่ยอดเกศถึงพระบาทประมาณ 53 เมตร กว้าง 7.5 เมตร สูง 18 เมตร ภายในมีทั้งหมด 4 ชั้น และชั้นที่ 4 เป็น “ห้องบรรจุหัวใจพระนอนซึ่งเป็นแห่งเดียวในโลก” เลยนะคะ
การเดินทาง :: แผนที่ GPS (คลิก)
สถานที่ตั้ง :: ตั้งอยู่คลองสำโรงฝั่งเหนือ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
เวลาเข้าชม :: เปิดทุกวัน 08:30 – 16:30 น.
วัดบางพลีใหญ่ใน
(วัดหลวงพ่อโต)
วัดบางพลีใหญ่ในเดิมชื่อ วัดพลับพลาไชยชนะสงคราม สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ในชัยชนะของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชต่อพม่า ต่อมาได้อัญเชิญพระพุทธรูปองค์ใหญ่สมัยสุโขทัยปางมารวิชัยลืมเนตร หน้าตักกว้าง 3 ศอก 1 คืบ เนื้อเป็นทองสัมฤทธิ์เป็นพระประธานในโบสถ์ เป็นที่เลื่อมใสของประชาชนโดยทั่วไปนาม หลวงพ่อโต วัดนี้จึงมีชื่อว่า วัดหลวงพ่อโต ชาวบางพลีได้อัญเชิญหลวงพ่อโตจำลองลงเรือ ในงานประเพณีโยนบัวหรือรับบัวของทุกปี ซึ่งจัดในวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11
การเดินทาง :: แผนที่ GPS (คลิก)
สถานที่ตั้ง :: ตั้งอยู่ริมคลองสำโรง ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
เวลาเข้าชม :: เปิดทุกวัน 08.00–17.00 น.
ตลาดโบราณบางพลี
( พ.ศ. 2400 )
จุดเด่นของที่นี่ คือเป็นตลาดเก่าแก่ริมคลองสำโรง พื้นตลาดเป็นพื้นไม้ สามารถเดินติดต่อกันได้ยาวกว่า 500 เมตร เดิมชื่อตลาด”ศิริโสภณ” สันนิษฐานว่าชาวจีนเข้ามาเปิดร้านในตลาดนี้ราว พ.ศ. 2400 ตลาดน้ำบางพลีถือเป็นตลาดน้ำประวัติศาสตร์แห่งหนึ่ง มีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและมีวัฒนธรรมที่ดีงามให้เราได้สัมผัสกันอยู่
การเดินทาง :: แผนที่ GPS (คลิก)
สถานที่ตั้ง :: ริมคลองสำโรง ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
เมืองโบราณ
เมืองโบราณถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากอีกแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ ถือว่าเป็นมรดกแห่งภูมิปัญญาไทย ด้วยสัญลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมรูปแบบต่างๆ ผสมผสานกับงานวิจิตรศิลป์และประณีตศิลป์ การจัดวางโครงสร้างและสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติที่สอดคล้องและสัมพันธ์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ก่อให้เกิดบรรยากาศที่โน้มนำให้ผู้มาเยือนได้รับรู้และเข้าใจถึงความสืบ เนื่องของประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ศาสนา ศิลปะ และขนบธรรมเนียมประเพณีของคนไทยในอดีตตราบจนถึงปัจจุบัน
การเดินทาง :: แผนที่ GPS (คลิก)
สถานที่ตั้ง :: ตั้งอยู่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 33 ถ.สุขุมวิท (สายเก่า) ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
เวลาเปิดให้บริการ :: เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00 น. – 18.00 น.
สถานตากอากาศบางปู
สถานที่ตากอากาศที่มีชื่อเสียงมาเป็นเวลานาน และเป็นสถานที่พักผ่อนของกรมพลาธิการทหารบก มีร้านอาหารและที่พักไว้บริการนักท่องเที่ยว ภายในบริเวณมีธรรมชาติอันสมบูรณ์ในพื้นที่ 639 ไร่ มีสะพานที่ทอดตัวเหยียดยาวออกไปในทะเลตลอด 500 เมตร ทำให้เป็นจุดดูนกและชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามแห่งหนึ่ง และนอกจากนั้นยังเป็นแหล่งชมปลาสองน้ำเพราะเป็นเขตรอยต่อของปากแม่น้ำกับ ทะเลอ่าวที่จะพบกลุ่มปลาน้ำกร่อย ปลาตีน ปลากระทุงเหว ช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงปลายเดือนพฤษภาคม จะมีนกนางนวลอพยพหนีหนาวจากแถบไซบีเรียมาพักอาศัยในบริเวณนี้ และยังมีสถานที่พักผ่อนที่ศาลาสุขใจบริการอาหารรสชาติอร่อย และทุกวันเสาร์จะมีกิจกรรมเต้นรำ และลีลาศ ตั้งแต่เวลา 17:00 – 21:00 น.
การเดินทาง :: แผนที่ GPS (คลิก)
สถานที่ตั้ง :: ตั้งอยู่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 37 ถ.สุขุมวิท (สายเก่า) ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
เวลาให้บริการ :: เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 น. – 18.00 น.
ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ
เปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493 ถือว่าเป็นฟาร์มจระเข้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายในเป็นสถานเพาะเลี้ยงจระเข้ทั้งน้ำจืดและน้ำเค็มขนาดต่างๆกว่า 40,000 ตัว มีการแสดงวิธีจับจระเข้ด้วยมือเปล่านะคะ นอกจากนี้ยังมีการแสดงของช้าง และสวนแสดงพันธุ์สัตว์ เช่น เสือ ลิงชิมแปนซี ชะนี เต่า งูเหลือม งูหลาม นก อูฐ ฮิปโป และปลานานาชนิด รวมถึงยังมีพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ด้วยนะ
การเดินทาง :: แผนที่ GPS (คลิก)
สถานที่ตั้ง :: เลขที่ 555 ถ.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
เวลาเปิดให้บริการ :: เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น.
ค่าธรรมเนียม :: ผู้ใหญ่คนละ 60 บาท เด็ก 30 บาท / ชาวต่างประเทศผู้ใหญ่ คนละ 300 บาท เด็ก 200 บาท
พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ
เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรักษาศิลปวัตถุ มรดกทางวัฒนธรรมด้านต่างๆ และเพื่อสืบสานอนุรักษ์งานศิลป์ไทยให้คงอยู่สืบชั่วลูกชั่วหลานสืบไปช้างเอราวัณหรือช้างสามเศียร เป็นประติมากรรมลอยตัวที่ใช้เทคนิคการเคาะโลหะขึ้นรูปด้วยมือเป็นแห่งแรกใน โลก ทำจากโลหะทองแดงนับแสนชิ้นแผ่นเล็กสุดขนาดเท่าฝ่ามือนำมาย่างไฟให้อ่อนตัว แล้วเคาะเรียงต่อกันด้วยความประณีตโดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างจากแรงบันดาลใจ ความคิดและจินตนาการของคุณเล็ก วิริยะพันธุ์ ผู้สร้างเมืองโบราณและปราสาทสัจธรรมเมืองพัทยา จ.ชลบุรี
การเดินทาง :: แผนที่ GPS (คลิก)
สถานที่ตั้ง :: ตั้งอยู่บน ถ.สุขุมวิท บริเวณที่ตัดกับ ถ.กาญจนาภิเษก ต.บางเมืองใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
เวลาเปิดให้บริการ :: 08:00 – 19:00 น.
ค่าธรรมเนียม :: ผู้ใหญ่ 200 บาท / เด็ก 100 บาท, ชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 400 บาท / เด็ก 200 บาท
องค์พระสมุทรเจดีย์
พระสมุทรเจดีย์แห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัดสมุทรปราการ โดยรัชกาลที่ 2 ทรงมีพระราชดำริให้สร้างพระเจดีย์ขึ้นบนเกาะแห่งนี้ เพื่อเป็นที่สักการบูชาของผู้คนที่เดินทางผ่านไปผ่านมาให้เป็นสิริมงคล และทรงพระราชทานนามพระมหาเจดีย์นี้ว่า “พระสมุทรเจดีย์” แต่ก่อสร้างได้เพียงถมศิลาเพิ่มฐานก็เสด็จสวรรคต จนมาเสร็จสมบูรณ์ในสมัยรัชกาลที่ 3 ถือว่าเป็นพระเจดีย์ที่สวยงามมากค่ะ
การเดินทาง :: แผนที่ GPS (คลิก)
สถานที่ตั้ง :: ตั้งอยู่ที่บ้านเจดีย์ ต.ปากคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ
เวลาเปิดให้เข้าชมสักการะ :: เปิดทุกวัน 07.00-19.00 น.
ป้อมพระจุลจอมเกล้าฯ
ป้อมพระจุลจอมเกล้า หรือป้อมพระจุลฯ เป็นอนุสรณ์สถานที่สร้างไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ระลึกถึงป้อมที่ทันสมัย และมีบทบาทสำคัญยิ่งในการปกป้องอธิปไตยของชาติ ซึ่งเป็นที่ทำการยิงต่อสู้กับอริราชศัตรูมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ ร.ศ. 112 (พ.ศ. 2436) นอกจากนี้ในบริเวณป้อมพระจุลฯยังมี พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พิพิธภัณฑ์เรือหลวงแม่กลอง, อุทยานฯ ประวัติศาสตร์ทหารเรือ และยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติในเชิงอนุรักษ์ของป่าชายเลนอีกด้วยนะคะ
การเดินทาง :: แผนที่ GPS (คลิก)
สถานที่ตั้ง :: ตั้งอยู่บริเวณปากน้ำเจ้าพระยา ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ
เวลาเปิดให้บริการ :: เปิดทุกวัน 08:30 – 16:30 น.
เขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา
(จ.สมุทรปราการ)
ที่นี่เป็นลานเอนกประสงค์หรือลานคนเมือง ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย หรือกิจกรรมต่างๆของชาวสมุทรปราการ นอกจากนี้ยังเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจได้ดีมากๆค่ะ ยิ่งมานั่งชมพระอาทิตย์ตกดิน ฝั่งตรงข้ามเป็นวิวขององค์พระสมุทรเจดีย์นั่นเอง ฟินระดับ 10+ ไปเลยค่ะ
การเดินทาง :: แผนที่ GPS (คลิก)
สถานที่ตั้ง :: ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณใกล้ศาลาว่าการจังหวัดสมุทรปราการ
” เพราะเราเชื่อว่าในเเต่ละอำเภอย่อมมีเสน่ห์บางอย่างซ่อนอยู่เสมอ “
IzeRADAH 💚 อำเพ้ออำเภอ
พระสมุทรเจดีย์ / พระเจดีย์เก่าแก่และงดงาม / สมุทรปราการ
ใครว่าเมืองไทยมีที่เที่ยวไม่เยอะ เรานี่เถียงขาดใจเลยนะ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวบ้านเรามีเยอะ และหลากหลายมากเลยนะคะ ... คุณขาาา!!!
สวัสดีค่ะทุกคนนนนนนนน
วันนี้ฟ้าใสมากกกกกก … เราจะเดินทางจากบางกอก ไปที่สมุทรปราการกันน๊าาาาาา
พร้อมแล้วไปกันเล้ยยยยยยย Go! Go!
” การเดินทาง “
สถานที่ตั้ง :: ตั้งอยู่ที่บ้านเจดีย์ ต.ปากคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ
การเดินทาง :: แผนที่ GPS (คลิก)
เวลาเปิดให้เข้าชม :: เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 07.00-19.00 น. (เข้าชมฟรี)
เฮ้ยยยยยยยยย … เปิดวาร์ปมาก็ใกล้ถึงแล้ว บอกเลยว่าวันนี้ฟ้าสวยมากกกกกกก
” อำเภอพระสมุทรเจดีย์ “
“ที่ว่าการอำเภอ” ในแต่ละอำเภอเปรียบเหมือนจุดศูนย์กลางของอำเภอนั้นๆ
เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่เราออกเดินทางไปทุกที่ เราจะถ่ายรูปคู่กับที่ว่าการอำเภอและสถานีตำรวจเสมอ
” และนี่ก็คือ Mission ในการออกเดินทางของเรานั่นเองจ้าา “
เพราะทั้ง 2 สถานที่นี้มักอยู่ในอาณาเขตรั้วเดียวกันตั้งแต่อดีตเป็นต้นมานั่นเองนะฮ๊าาา
พร้อมแล้ว ออกไปซ่าส์กันเล้ยยยยยย
เลส สะ โกววววว !!!
ทาด๊าาาาาา … ขับรถมาชั่วโมงนิดๆก็ถึงทางเข้าองค์พระสมุทรเจดีย์แล้วจ้าาา
ก่อนเข้าไปชมความงามของพระสมุทรเจดีย์ เราก็มาชิลด้านหน้ากันก่อนเลย เพราะด้านหน้าเป็นตลิ่งของแม่น้ำ
เมื่อก่อนตรงนี้ก็เป็นเกาะด้วย ชาวบ้านจึงเรียกว่า พระเจดีย์กลางน้ำ แต่พอเวลาผ่านไปชายฝั่งก็ตื้นขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้ไม่ได้เป็นเกาะเเล้ววววววว
พื้นที่ของสมุทรปราการในสมัยก่อนนั้น เป็นเมืองเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ตัวเมืองเก่าจริงๆ นั้นอยู่ในบริเวณ อ.พระประแดง และมีชื่อเรียกในตอนนั้นว่าเมืองพระประแดง ใช้เป็นสถานที่พักของชาวต่างชาติที่มาติดต่อค้าขายกับชาวไทย เนื่องจากเป็นบริเวณปากอ่าว มีการเดินทางสัญจรออกทะเลได้ง่ายนั่นเองจ้าา
เดินมาเรื่อยๆ ก็จะมีลานด้านหน้าพระเจดีย์ ซึ่งเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของผู้คนที่นี้และนักท่องเที่ยวด้วย
ชิลไปอี้กกกกกกกกก!!!
รัชกาลที่ 2 ทรงมีพระราชดำริให้สร้างพระเจดีย์ขึ้นบนเกาะแห่งนี้ เพื่อเป็นที่สักการบูชาของผู้คนที่เดินทางผ่านไปผ่านมาให้เป็นสิริมงคล และทรงพระราชทานนามพระมหาเจดีย์นี้ว่า “พระสมุทรเจดีย์”
แต่การก่อสร้างพระเจดีย์ยังไม่ได้เริ่มต้นขึ้น ทำได้เพียงการถมศิลาเพิ่มฐาน ก็เสด็จสวรรคตไปเสียก่อน และพระสมุทรเจดีย์นั้นก็มาสร้างจนเสร็จสมบูรณ์ในสมัยรัชกาลที่ 3 ค่ะ
เดินมาเรื่อยๆรอบองค์เจดีย์เราก็จะเห็น ศาลาราย (เก๋งจีน) ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 ซึ่งเป็นศาลาที่มีศิลปะแบบจีน โดยแต่ก่อนใช้เป็นสถานที่สำหรับผู้ที่มาสักการะองค์พระสมุทรเจดีย์นั่นเอง
ได้ชมความงามของสถาปัตยกรรมไปอีกแบบ … เพลินเลยเราาาา
อ๊ะ! เดินต่อมาก็เจอ เสาหินหัวเหลี่ยม รอบองค์พระเจดีย์เลย ซึ่งสันนิษฐานว่าเมื่อนก่อนใช้เป็นเสาแสดงอาณาเขตของเจดีย์ ส่วนด้านบนใช้วางตะเกียงของชาวเรือที่เดินทางมาในตอนกลางคืนค่ะ
อู้หูวววววว! เจ๋งอ่ะ
และนี่ก็คือ พระวิหารหลวง ด้านในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร
แต่พระสมุทรเจดีย์ที่เราเห็นกันในตอนนี้นั้นไม่ใช่องค์เดิมกับที่สร้างเสร็จสมัยรัชกาลที่ 3 เพราะในรัชกาลที่ 4 เกิดมีมารศาสนาปีนขึ้นไปบนพระเจดีย์แล้วเจาะขโมยเอาพระบรมสารีริกธาตุที่ บรรจุไว้ออกไป พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างองค์พระเจดีย์ที่ใหญ่และสูงขึ้นไปอีก ครอบพระเจดีย์องค์เดิมไว้ เพื่อไม่ให้มีใครปีนขึ้นไปได้อีก ดังนั้น จึงเป็นที่มาของพระสมุทรเจดีย์องค์ที่งามสง่า เห็นเด่นชัดอยู่จนปัจจุบันนี้
และทุกๆปีในวันแรม 5 ค่ำ เดือน 11 มีงานนมัสการองค์พระสมุทรเจดีย์ประจำปี มีปารนำขบวนผ้าแดงไปห่มองค์พระเจดีย์ เป็นเวลา 12 วัน 12 คืน ซึ่งถือว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่มากเลยน๊าาาา … ใครสนใจมาได้เลยจ้า
อ๊ะๆๆๆ ลืมบอกไปว่า “พระสมุทรเจดีย์” ยังเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดสมุทรปราการด้วยนะยูววววว
หากใครมีโอกาสมาเที่ยว จ.สมุทรปราการ ห้ามพลาดที่จะมาชิลกับบรรยากาศริมน้ำและเยี่ยมชมความงดงามของ “องค์พระสมุทรเจดีย์ “แห่งนี้น๊าาาา
แล้วพบกันใหม่ …
” เพราะเราเชื่อว่าในเเต่ละอำเภอย่อมมีเสน่ห์บางอย่างซ่อนอยู่เสมอ “
IzeRADAH 💚 อำเพ้ออำเภอ
เที่ยวให้ครบ / 10 จุด Check-in / สายวัฒนธรรมเน้นๆ / ในตัวเมืองร้อยเอ็ด
ทาด๊าาาา ... วันนี้ IzeRADAH จะพาไปซิ่งจังหวัดในภาคอีสานกันอีกแล้ว ลบความคิดเดิมๆได้เลยว่าภาคนี้ไม่มีที่เที่ยว ขอบอกเลยว่าเยอะจัดๆ และก็แต่ละที่มีเสน่ห์ในตัวเองทั้งนั้น
ไม่เชื่อก็ลองตามอีเพ้อไปดูกันสิยูววววว์!
มารู้จัก “ร้อยเอ็ด”
ร้อยเอ็ด :: เป็นจังหวัดหนึ่งที่อยู่ในภาคอีสานตอนกลาง ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 512 กิโลเมตร
การเดินทาง :: เครื่องบิน / รถทัวร์ / รถส่วนตัว
วันนี้จะพาทุกคนไปขับรถเที่ยวเน้นๆเฉพาะในตัวเมืองร้อยเอ็ด ย้ำ!ว่าแค่ในตัวเมืองเท่านั้นเด้ออออออ
อนุสาวรีย์พระขัตติยะวงษา
พระขัติยวงษา (ทน) ได้รับสถาปนาให้เป็นเจ้าเมืองร้อยเอ็ดคนแรก เมื่อ พ.ศ. 2318 ในรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
อ่านรีวิว “อนุสาวรีย์พระขัตติยะวงษา” คลิกโลดดด
การเดินทาง :: แผนที่ GPS (คลิก)
สถานที่ตั้ง :: อยู่ที่บริเวณวงเวียนห้าแยกสายน้ำผึ้ง ใกล้วิทยาลัยนาฏศิลป์ร้อยเอ็ด ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด
ศาลหลักเมือง
ศาลหลักเมืองจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นศาลคู่บ้านคู่เมืองที่ชาวร้อยเอ็ดนับถือ ซึ่งชาวร้อยเอ็ดมีความเชื่อว่าเจ้าพ่อจะช่วยดลบันดาลให้ชาวเมืองมีความสุข สมปรารถนานั่นเอง
อ่านรีวิว “ศาลหลักเมืองร้อยเอ็ด” คลิกโลดดด
การเดินทาง :: แผนที่ GPS (คลิก)
สถานที่ตั้ง :: ภายในบริเวณบึงพลาญชัย ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด
บึงพลาญชัย
สถานที่ตั้ง :: ตั้งอยู่บริเวณกลางเมืองร้อยเอ็ด ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด แผนที่ GPS (คลิก)
บึงพลาญชัย มีลักษณะเป็นเกาะอยู่กลางบึงน้ำขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 200,000 ตารางเมตร นอกจากจะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวร้อยเอ็ดแล้ว ยังใช้เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลของจังหวัด จึงถือได้ว่าบึงพลาญชัยเป็นสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดด้วยนะยูว์ อ่านรีวิว “บึงพลาญชัย” คลิกโลดดด
ประตูเมืองสาเกตุนคร
สถานที่ตั้ง :: ถนนสุนทรเทพบริเวณด้านหน้าบึงพลาญชัย อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด แผนที่ GPS (คลิก)
ประตูเมืองสาเกตนคร ถือเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดร้อยเอ็ด สร้างขึ้นเพื่อเป็นประตูเมืองและเป็นประตูเข้าเมืองสีพี ของกัณฑ์ที่ 10 (นครกัณฑ์) ในงานประเพณีบุญผะเหวดร้อยเอ็ด ก่อสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2541 เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542 จ้าาาาา (อ่านรีวิว “ประตูเมืองสาเกตนคร” คลิกโลดดด)
วัดบึงพระลานชัยพระอารามหลวง
สถานที่ตั้ง :: ริมบึงพลาญชัย ถนนประชาธรรมรักษ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด แผนที่ GPS (คลิก)
วัดบึงพระลานชัยพระอารามหลวง เป็นวัดเก่าแก่โบราณ เมื่อ พ.ศ. 2318 พระยาขัตติยะวงศาเจ้าเมืองร้อยเอ็ด ได้สถาปนาวัดขึ้นใหม่เรียกว่า วัดบึงพลาญชัย หรือ วัดบึง เพราะมีบึงอยู่ด้านหน้าวัด ซึ่งถือว่าวัดแห่งนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และสังคมปัจจุบัน ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาของข้าราชการ
อ่านรีวิว “วัดบึงพระลานชัยพระอารามหลวง” คลิกโลดดด
สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำร้อยเอ็ด
สถานที่ตั้ง :: ถนนเทวาภิบาล (หน้าวัดบึงพระลานชัย) ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด แผนที่ GPS (คลิก)
เวลาทำการ :: เปิดทุกวันเว้นวันจันทร์ อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น.
อ่านรีวิว “สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำร้อยเอ็ด” คลิกโลดดด
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติร้อยเอ็ด
สถานที่ตั้ง :: ถนนเพลินจิต ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด แผนที่ GPS (คลิก)
เวลาทำการ :: 09.00 – 16.00 น. ในวันพุธถึงวันอาทิตย์ โดยจะ ปิดทำการวันจันทร์ วันอังคารและวันหยุดนักขัตฤกษ์
ค่าธรรมเนียม :: คนไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท (นักเรียน นักศึกษาในเครื่องแบบ ภิกษุ สามเณร และนักบวชในศาสนาต่างๆ ไม่เสียค่าธรรมเนียมเข้าชม)
เรียกได้ว่า … ถ้าเราไปจังหวัดไหนแล้วไม่ไปศึกษาข้อมูลตามพิพิธภัณฑ์ประจำจังหวัดนั้นๆถือว่าพลาดนะยูววววววววว อ่านรีวิว “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติร้อยเอ็ด” คลิกโลดดด
วัดกลางมิ่งเมืองพระอารามหลวง
วัดกลางมิ่งเมืองพระอารามหลวง เดิมชื่อ วัดกลาง เนื่องจากตั้งอยู่ใจกลาง และถือว่าเป็นวัดเก่าแก่ในเมือง โดยคาดว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยา สำหรับพระอุโบสถนั้นเป็นศิลปะแบบล้านช้าง ภายในพระอุโบสถประดิษฐาน พระพุทธมิ่งเมืองมงคล พระพุทธรูปประจำจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย เนื้อสัมฤทธิ์ สร้างขึ้นโดยพระขัติยะวงษา (สีลัง) เจ้าเมืองร้อยเอ็ดคนที่ 2 นั่นเองค่ะ
อ่านรีวิว “วัดกลางมิ่งเมืองพระอารามหลวง” คลิกโลดดด
การเดินทาง :: แผนที่ GPS (คลิก)
สถานที่ตั้ง :: ถนนดำรงราษฎร์วิถี ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด
เวลาเข้าชม :: 08.30 – 16.30 น. ของทุกวัน (เข้าชมฟรี)
วัดบูรพาภิรามพระอารามหลวง
พระพุทธรัตนมงคลมหามุนี หรือ หลวงพ่อใหญ่ พระพุทธรูปปางประทานพรที่สูงที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2516 องค์พระสร้างขึ้นด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ความสูงขององค์พระวัดจากพระบาทถึงยอดเกศสูง 59 เมตร 20 เซนติเมตร และมีความสูงทั้งหมด 67 เมตร 85 เซนติเมตร
ชาวร้อยเอ็ดเชื่อว่าพระเจ้าใหญ่เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองที่คอยปกป้องคุ้มครอง ให้มีชีวิตอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข และด้วยความสูงของพระองค์ทำให้มีความเชื่อว่า หากได้มากราบไหว้ จะได้อานิสงส์สูงเทียมเมฆเทียมฟ้า จะทำการสิ่งใดก็สำเร็จลุล่วงด้วยนะคะ
อ่านรีวิว “วัดบูรพาภิรามพระอารามหลวง” คลิกโลดดด
การเดินทาง :: แผนที่ GPS (คลิก)
สถานที่ตั้ง :: ถนนชัยมงคล ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด
วัดเหนือ
วัดเหนือ เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดร้อยเอ็ด มีเจดีย์โบราณ หรืออาจเรียกว่าสถูปทรงบัวเหลี่ยม อายุราว 1,300 ปี สถูปนี้เป็นที่บรรจุอัฐิของเจ้าอาวาส จากการสำรวจพบว่าสถูปนี้ชั้นในก่อด้วยอิฐขนาดใหญ่ในสมัยทวารวดี ชั้นนอกเคยบูรณะด้วยอิฐสมัยอยุธยา นอกจากนนี้ยังขุดพบใบเสมาหินทรายสมัยทวารวดี อายุประมาณ 1,200 ปี และภายในวัดยังมี สิม (โบสถ์อีสาน) อายุกว่าร้อยปีซึ่งได้รับอิทธิพลจากล้านช้าง ซึ่งสวยงามมาก เปี่ยมไปด้วยประวัติความเป็นมามากค่ะ อ่านรีวิว “วัดเหนือ” คลิกโลดดด
การเดินทาง :: แผนที่ GPS (คลิก)
สถานที่ตั้ง :: ถนนผดุงพานิช ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด
ไม่น่าเชื่อนะคะว่าจังหวัดเล็กๆอย่างในตัวเมืองเกินร้อยแห่งนี้จะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายขนาดนี้ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมหล่ะยูว์ เก็บกระเป๋าเสื้อผ้า “ไป Check in ร้อยเอ็ด” กันเด้อจ้าาาาาาา!!!!!
” ทริปหน้าจะพาไปรู้จักที่ไหน อำเภออะไร ใช่อำเภอหรือไม่ ฝากติดตามกันด้วยนะคะ “
IzeRADAH 💚 อำเพ้ออำเภอ
บึงพลาญชัย / สวนสาธารณะสวยใจกลางเมือง / ร้อยเอ็ด
ยู้ฮูวว … วววววววววว !!!
วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับสวนสาธารณะที่เป็นเกาะอยู่กลางน้ำ ซึ่งถือว่าเป็นปอดของเมืองร้อยเอ็ดก็ว่าได้ พร้อมแล้วก็ไปพักปอดกันเร้วววววว !!
สถานที่ตั้ง :: ตั้งอยู่บริเวณกลางเมืองร้อยเอ็ด ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด
บึงพลาญชัย มีลักษณะเป็นเกาะอยู่กลางบึงน้ำขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 200,000 ตารางเมตร ซึ่งขอบอกว่า “มันใหญ่มากกกกก”
ในปี พ.ศ. 2469 อำมาตย์เอกพระยาสุนทรเทพกิจจารักษ์ (ทอง จันทรางศุ) ข้าหลวงจังหวัดร้อยเอ็ดเห็นว่า บึงพลาญชัย (เดิมใช้ว่าบึงพระลานชัย) มีความตื้นเขิน จึงได้ชักชวนชาวบ้านจากทุกอำเภอจำนวน 40,000 คน มาขุดลอกบึงทั้งกลางวันและกลางคืนอยู่ 2 ปี เพื่อให้มีน้ำขังอยู่ได้ตลอดปี ต่อมาก็ได้มีการพัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง จนเป็นมรดกที่สำคัญของจังหวัดร้อยเอ็ดมาตราบเท่าทุกวันนี้นั่นเองจ้าาา
ว่าแล้วเราก็เข้าไปดูข้างในกันดีกว่าาาาา
ทาด๊าาาา … เจอรูปปั้นสิงห์สัมฤทธิ์ ยืนอยู่ตรงประตูทางเข้าเลย สวยมากๆ
เดินต่อไปจะเจอ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นสวนสาธารณะประจำจังหวัด ประชาชนก็จะมาออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬากันบริเวณนี้แหละค่ะ
รู้มั๊ยว่านี้คืออะไร?
แท่น แท้นนน … นี่ก็คือ โหวด เป็นเครื่องดนตรีพื้นเมืองของชาวอีสาน และเป็นเครื่องดนตรีประจำจังหวัดร้อยเอ็ดด้วยนะยูว์
เดินเข้ามาเรื่อยๆ ก็แวะสักการะ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคลกันซะหน่อย … สาธุ!
ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ถือว่าเป็นของคู่บ้านคู่เมืองที่ชาวร้อยเอ็ดเคารพนับถือ และเชื่อว่าเจ้าพ่อจะช่วยดลบันดาลให้ชาวเมืองร้อยเอ็ด มีความสุขความเจริญ คิดสิ่งใดให้สมปรารถนา มาแล้วห้ามพลาดนะคะ
ที่นี่ร่มรื่นมาก มีต้นไม้ขนาดใหญ่เต็มไปหมดไม่ว่าจะรอบบึงหรือภายในบริเวณบึงเองก็ตาม
บึงพลาญชัย มีบริเวณติดกับประตูเมืองสาเกตุนคร จึงมักถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลสำคัญๆของจังหวัด จึงถือว่า บึงพลาญชัยแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัดร้อยเอ็ดนั่นเอง
เห็นคนพื้นที่บอกว่าที่นี่มีปลาหลายสายพันธุ์มากๆเลยนะคะ มีทั้งเล็ก ใหญ่ ไปจนถึงมหึมากันเลยทีเดียว
อร๊ายยยยยยย … ตัวใหญ่กว่าเราก็มีนะ (คุณลุงท่านหนึ่งเล่าให้ฟัง)
ตรงนั้นมีศาลายื่นไปกลางน้ำด้วย … ไปกันนนนน
แนะนำให้มาช่วงเช้ากับช่วงเย็นๆ แต่ถ้าเที่ยงๆบ่ายๆมาก็ไม่ว่ากันนะ อยู่ใต้ต้นไม้ได้เย็นสบายดี แต่ระวังแดดหน่อยเด้อออออ
จะว่าไปที่นี่จัดแบ่งพื้นที่ได้สวยงามมาก บรรยากาศก็ชิล เย็นสบายมากๆเลยแกรเอ้ยยยยย เหมือนได้มาพักปอดฟอดใหญ่เลย
ใครที่มาเที่ยวที่เมืองเกินร้อยแห่งนี้ ถ้าไม่มาชิลที่ บึงพลาญชัย ถือว่าพลาดมากเลยนะยูวววววว์ …
อ้อ! ครั้งหน้าอีเพ้อจะพาไปที่ไหนในร้อยเอ็ดบ้าง อย่าลืมติดตามกันเด้อออออ … จุ๊บๆจ้าาา!
IzeRADAH 💚 อำเพ้ออำเภอ
ผจญภัย / โลกใต้น้ำ / ร้อยเอ็ด
แน่นอนว่าอ่านไม่ผิดกันหรอกค่ะ ที่จังหวัดร้อยเอ็ดก็มี โลกใต้น้ำ กับเขาเหมือนกัน … อย่าชักช้า เราพาไปตะลุยกันเลยดีกว่า ตามมานะยูววววววว!
สถานที่ตั้ง :: ตั้งอยู่บนถนนสุนทรเทพ (หน้าวัดบึงพระลานชัย) ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด
การเดินทาง :: แผนที่ GPS
เวลาทำการ :: เปิดทุกวันเว้นวันจันทร์ อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30-16.30 น.
ทาด๊าาาาา … เปิดวาร์ปมาข้างหน้า สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด กันเลยจ้าาาา
เราได้ข่าวมาว่าที่นี่มี เจ้าปลาบึกยักษ์ ซึ่งถือเป็นไฮไลท์จัดแสดงด้วยนะ
ป่ะ! เข้าไปตามหานางเอกของเรากันนนนนนนนนนน
ตามมาๆ ก่อนที่เราจะไปพบกับนางเอกก็มาเจอส่วนจัดแสดงเทียนพรรษาเมืองร้อยเอ็ดด้วยหล่ะ … สวยเนอะ
โอ๊ะโอ … เจอป้ายนี้ทำให้เราคิดว่า จังหวัดอื่นก็ต้องมีปลาประจำจังหวัดด้วยเหมือนกันหรือเปล่าน๊าาา (เกิดความสงสัยในใจเบาๆ แบบนี้ต้องกลับไปถามอากู๋ซะล๊าววว)
น้องปลาเต็มไปหมดเลยอ่ะ ที่นี้มีตู้ปลาทั้งหมด 24 ตู้ แต่ละตู้ก็จะมีปลาต่างๆไว้ไม่เหมือนกันด้วยนะ
ว่าแต่พี่บึกอยู่ไหน?
บุ๋งๆๆๆๆ เห็นพี่บึกไหมจ๊ะน้องปลาจ๋า
ว่ายน้ำเย็นเชียวไอ้ตัวเล็กทั้งหลายยยยยยย
อ๊ะๆๆๆๆ ตู้นี้มีนางเอกของเราว่ายอยู่ด้วยนะ
ปลาบึก เป็นปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ และได้รับฉายาว่า ราชินีแห่งลุ่มแม่น้ำโขง ด้วย
รอเด้! รอเด้! จากมุมเมื่อกี้มองไม่เห็นนางเอกของเรา เลยย้ายมุมมาที่ อุโมงค์แก้ว ดีกว่า … แชะๆๆๆ ถ่ายรูปรอนางเอกไปเรื่อยๆ
รอวนไป … จะให้รอนานแค่ไหนก็ไม่ว่า เพราะที่นี้แอร์เย็นฉ่ำเลยค่ะ
สบายยยยยยยยยยยย ^^
ทาด๊าาาา! นางเอกของเรามาแล้วววววววววว … เจอตัวเป็นๆใกล้ๆเลยอ่ะ ดีใจๆ ขอแชะรูปหน่อยน๊าาา ยิ้มหน่อยเด้พี่บึกจ๋าาา
หากใครแวะมาเที่ยว จ.ร้อยเอ็ด อย่าลืมแวะมาเที่ยวโลกใต้น้ำ ถ่ายรูปกับ ราชินีแห่งแม่น้ำโขง กันด้วยน๊าาาาาา … แชะๆ
IzeRADAH 💚 อำเพ้ออำเภอ
[ IzeRADAH ] : รู้จักกันมั๊ย? “วัดบึงพระลานชัยพระอารามหลวง” อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด [ Travel ]
สถานที่ตั้ง :: ตั้งอยู่บนถ.ปัทมานนท์ (ริมบึงพลาญชัย) ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด
การเดินทาง ::
วัดบึงพระลานชัยพระอารามหลวง เป็นวัดเก่าแก่โบราณ มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และสังคมปัจจุบัน ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาของข้าราชการนั่นเองค่ะ
เมื่อ พ.ศ. 2318 พระยาขัติยวงษา (ธน) เจ้าเมืองร้อยเอ็ด ได้ชักชวนข้าราชการพ่อค้าประชาชนถากถางป่าดงพงหญ้า ซึ่งเต็มไปด้วยซากปรักหักพังบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นเป็นวัดและให้ชื่อว่า วัดบึงพระลานชัย แต่ชาวบ้านนิยมเรียกสั้นๆว่า วัดบึง เพราะมีบึงขนาดใหญ่อยู่บริเวณด้านหน้าวัดนั่นเองจ้าาา
เนื่องจากพระอุโบสถหลังเก่าถูกพายุทำลายไป จึงสร้างหลังใหม่ขึ้นมาแทน แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2548 มีความกว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๓๒ เมตร
พระอุโบสถเป็นอาคารทรงไทย หลังคาซ้อน ๓ ชั้น ลด ๓ ชั้น มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ นาคสะดุ้ง เหนือหลังคาชั้นที่ ๒ และชั้นบนสุด ตกแต่งเป็นหน้าบรรณขนาดเล็ก ๙ หลัง แต่ละหน้าบรรณมีตราธรรมจักรและมงกุฎ ด้านบนสุดของหลังคาเป็นยอดเจดีย์
บางทีความงามก็อยู่ใกล้ๆเรา มันขึ้นอยู่เราจะมองคุณค่าในความงามนั้นหรือไม่ก็เท่านั่นเอง
เดินชมสถาปัตยกรรมรอบๆวัดกันไปเรื่อยๆ …
ด้านขวา คือ หอระฆัง และทางด้านซ้าย คือ หอไตรนะคะ
ใครที่มีโอกาสมาเยื่อน จ.ร้อยเอ็ดแห่งนี้ ก็อย่าลืมแวะมาเยี่ยมชมสักการะ วัดบึงพระลานชัยพระอารามหลวง กันด้วยนะคะ
“ร้อยเอ็ดจ๋าาาา … แล้วเจอกันใหม่เด้อออออออ”
IzeRADAH 💚 อำเพ้ออำเภอ
“สะพานเทพสุดา” สะพานข้ามน้ำจืดที่ยาวที่สุดในประเทศไทย
เฮลโหล่วววววววว
วันนี้อีเพ้อจะพาไปสัมผัสบรรยากาศยามเย็นกันที่ไหน … ตามมากันเลยจ้าาาาา
ทาด๊าาาา … ไม่พูดพร่ำทำเพลง เราก็วาร์ปมาที่ สะพานเทพสุดา ในจังหวัดกาฬสินธุ์กันเลยโลดดดดดด
สถานที่ตั้ง :: จุดเริ่มต้นอยู่บริเวณแหลมโนนวิเศษ ต.โนนบุรี อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ และจุดสิ้นสุดอยู่ที่บริเวณเกาะมหาราช ต.หนองบัว อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์
สะพานเทพสุดา เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2549 ถึงเดือนธันวาคม 2553 เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กขนาด 2 ช่องจราจร ข้ามเขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ จากบริเวณแหลมโนนวิเศษ ตำบลโนนบุรี อำเภอสหัสขันธ์ ถึงบริเวณเกาะมหาราช ตำบลหนองบัว อำเภอหนองกุงศรี
สะพานเทพสุดา เป็นโครงข่ายเชื่อมเส้นทางคมนาคมขนส่งจาก จังหวัดหนองคาย อุดรธานี ผ่านจังหวัดกาฬสินธุ์ ไปยังจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็นประตูสู่อินโดจีนหรืออีสต์เวสต์อีโคโนมิก คอริดอร์ หลักๆคือเพื่อเป็นการร่นระยะทางในการขนส่งนั่นเองนะยูววววววว
สะพานแห่งนี้ ถือเป็นสะพานข้ามน้ำจืดที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาวกว่า 2 กิโลเมตรเลยนะคะ
มีไหล่ทางบนสะพานให้เดินเล่นชิลๆ
แสงยามเย็น …
ชื่นใจจจจจจจจจจจจจจจจจจจ … อากาศดีจัดๆ
ตรงนั้นคืออ่างเก็บน้ำของเขื่อนลำปาวนะยูวววววว …
ใครสนใจทานอาหาร ดื่มด่ำกับบรรยากาศของที่นี่อย่างใกล้ชิด ก็มีร้านอาหารที่เป็นแพให้บริการกันด้วยนะ
ตามมาๆ เราจะพาไปดูวิวด้านล่างสะพานกันบ้าง
คือบอกเลยว่า ชิลโคตร นี่ถ้าได้หนังสือมาอ่านซักเล่มนะ … ฟินพะยะค่ะ!!!
อาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าแล้ว มันเป็นช่วงเวลาที่มีเสน่ห์มากๆเลยสำหรับเรา
เฮ้ยแกรรรรรรร … ถ้ามีโอกาสมากาฬสินธุ์ห้ามพลาดที่ชิลๆอย่าง สะพานเทพสุดา น๊าาาาาาา
IzeRADAH 💚 อำเพ้ออำเภอ
น้ำตกผาลี่ / แกรนด์แคนย่อนแห่งใหม่ของภาคอีสาน / Unseen กาฬสินธุ์
ห๊าาาาาาาาา!!! … อะไรนะ?
ที่ จ. กาฬสินธุ์มีแกรนด์แคนย่อนด้วยเหรอ?
เราได้ยินครั้งแรกตื่นเต้นและอยากไปมาก นี่จึงเป็นเป้าหมายสูงสุดในการมาเที่ยวกาฬสินธุ์เลยก็ว่าได้ … ว่าแล้วเราก็ไปตามหา น้ำตกผาลี่ กันเล้ยยยยยย
ไปค่ะ!!!
อำเภอสมเด็จ :: ห่างจากตัวจังหวัดกาฬสินธุ์ประมาณ 42 กิโลเมตร
น้ำตกผาลี่ :: อยู่ในพื้นที่บ้านโคกกว้าง ตำบลมหาไชย อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์
การเดินทาง :: จากอำเภอสมเด็จไป ประมาณ 7 กิโลเมตร ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 213 ถึงบ้านโคกกลาง เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 4041 ประมาณ 8 กิโลเมตร ให้เราไปจนกว่าจะถึงบ้านโคกกว้างนะคะ ให้มองขวามือไว้จะมีซอยเล็กๆข้างโรงเรียนบ้านโคกกว้าง มีป้ายบอกทางเป็นน้ำตกผาลี่ แล้วเราก็เลี้ยวขวาตรงไปตามทางอีก 3 กิโลเมตรก็ถึงจ้าาา
นี่คือเส้นทางที่ผ่านบ้านโคกกว้างไปยังน้ำตกผาลี่ของเราาาาาา
เดี๋ยวๆๆๆ จอดรถแพร๊พพพพพพพพพ!!!
อยากมีเอวเป็นตัว S เหมือนป้ายบอกทาง
โพสท่าก่อนนะ แชะ!
โอเค … สนอง need ตัวเองรีบร้อยแล้ว! ไปต่อได้!
ผ่านถนนลาดยางมาประมาณเกือบ 2 กิโลเมตร ที่เหลืออีกโลกว่าๆก็จะเป็นทางดินลูกรังนี่แหละแกเอ้ยยยยยย!!!
ใครมาเก็บของป่าโปรดอ่าน จะได้ไม่ทำผิดกฏหมายนะยูว์!!
งานงอก!!! คือถนนมันโคตรขรุขระเลย เราเอารถเข้าไปไม่ได้ละ ยอมจอดรถไว้ตรงนี้ก่อน!
จริงๆมันก็เดินเท้าเข้าไปได้นะเหลือเเค่โลกกว่าๆเอง แต่ประเด็นสำคัญมันอยู่ตรงนี้ … ตรงที่เราอ่านและหาข้อมูลเกี่ยวกับน้ำตกผาลี่ ไม่มีใครบอกกรูเลยว่า แม่งเปลี่ยวมาก ชะนีน้อยไม่ควรมาคนเดียวเด็ดขาด!
เราเลยโทรหาพี่ที่รู้จักกันในพื้นที่ให้พาเข้าไป โคตรดีอ่ะ! จะได้มีคนคุ้มกันชะนีตัวน้อยๆอย่างเราด้วย 555555 (แลดูบอบบางเชียวตัวกรูเนี่ย 🙄)
เราไม่ควรปล่อยเวลาให้มันเสียเปล่าระหว่างรอ … ทำอะไรหล่ะคะ ก็ถ่ายรูปเป็นที่ระทึกไงหล่ะยูว์ เอ้า! แชะ!
นี่ก็แชะ! … แหม่! นี่มันคือทางถนัดของชะนีชัดๆ!
เย้! พี่มาแล้วเว้ยยยยยยยยยย … ไปต่อค่ะ!!!
ขับตรงไปประมาณโลกว่าๆจะมีสามแยกเดียวเลย ให้เราเลี้ยวขวามานะคะ ย้ำ! เลี้ยวขวา!!!! รับรองถึงเลย (อย่าไปซ้ายนะ … เพราะเราหลงมาแล้ววววว)
จากนั้นจะจอดตรงไหนได้ก็จอดเลยตามสะดวก
ลงจากรถปุ๊ปก็งงๆกับทางไปน้ำตก … มันอยู่ไหนวะ?
คือเอาจริงๆนะ … ถ้าเรานึกถึงน้ำตก มันจะต้องตกมาจากที่สูงไหลซู่ๆลงมาใช่มั๊ย?
แต่ … แต่ที่นี่ไม่ใช่น้ำตกในความคิดเราค่ะ เพราะมันเป็นร่องน้ำข้างล่างระหว่างซอกหินเขาทั้งสองด้านนั่นเอง
แหม่! ทางมาก็ลำบากแล้ว ยังมีความฮิปอยู่ในตัวน๊าาาาาาาา … เจ้าน้ำตกผาลี่!
นี่ไงเห็นมั๊ยยยยยยยยย … ทางเดินของธารน้ำ
ด้านล่างตรงนั้นคือ หลุมหรือโบก … มองเหมือนไม่สูงใช่มั๊ย จริงๆมันสูงและเสียวมากกกกกก
จากด้านบนลงไปข้างล่างก็ประมาณ 5 เมตรเอง
เอ๊ะ! … ทำไมขาสั่น?
ตามมาๆๆๆๆ … เราหาทางลงไปข้างล่างกันดีกว่า อยากสัมผัสความสวยของมันใกล้ๆแล้ว!
เดี๋ยวนะ! เราต้องมีการปีนลงไปข้างล่างด้วยเพราะฉะนั้นควรแต่งตัวทะมัดทะแมงกันด้วยนะยูวววว
เฮ้ยยยยยย … เราต้องอาศัยสัญชาตญาณความเป็นชะนีของเราให้เป็นประโยชน์แล้วล่ะ ลุยยย!
ทาด๊าาาาาา … ชะนีลงมาข้างล่างได้แล้วจ้าาาา
น้ำตกผาลี่จะมี 2 ส่วนนะคะ นั่นก็คือส่วนที่เป็นแกรนด์แคนย่อนกับส่วนที่เป็นน้ำตก
แต่ตอนนี้ไม่มีน้ำจะให้ตกนะคะ เราเลยจะมาดูแกรนด์แคนย่อนแทน น้ำเราไม่ต้องการ! แฮ่!
และนี่คือส่วนที่เป็นแกรนด์แคนย่อนค่ะ
ทาด๊าาาาาา … โคตรสวยอ่ะ บอกเลย!!
สวยเหี้ยๆ … ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาชม คือมันสวยมากสวยมากจริงๆ
เดี๋ยวๆ นี่มันโบกนี่นา … ถ่ายรูปแพร๊พพพพพพพ
บางโบกก็เล็กใหญ่ต่างกันไป บางโบกก็แห้งบางโบกก็มีน้ำ
คือมันสวยมากเว้ยแก … สวยแบบที่เราไม่คิดว่า จ.กาฬสินธุ์มีธรรมชาติที่เป็นแบบนี้ สมแล้วที่เป็น unseen ของที่นี่
โลเคชั่นสวยแบบนี้ เราขอถ่ายรูปเป็นที่ระทึกก่อนนะ … แชะ!
นี่คือร่องรอยความงามของหินที่กัดเซาะโดยผิวน้ำ
เอ้าาาา!!! ถ่ายรูปวนไปสิยูววววววววว
เชรดดดดดดดด … มองไปข้างบน! ต้นไม้มันเอาตัวรอดได้โหดมาก รากยึดเกาะไปเรื่อย สวยหว่ะ!
จากบนลงล่างสูงประมาณ 5 เมตรเลยน๊าา
ชีวิตคือการเดินทาง เดินต่อไปจนกว่าจะหมดแรงสิคะคุณขาาาาาาาา
ข้างหน้าจะมีอะไรให้เราได้ชมกันอีก … ไปค่ะ!!!
โลเคชั่นสวยขนาดนี้ใครไม่ยกกล้องมาถ่ายรูปก็บ้าไปแล้ววววววว … แชะรัวๆๆๆๆ ถ่ายรูปวนไปสิแกรรรร!
เดินต่อไป … ห๊าาาาา! เจอโบกซะแล้วเรา
โบก (หลุมของหินที่ถูกกัดเซาะโดนน้ำ) นี่มันใหญ่จริงๆแม่เจ้าประคุณ!!! … แต่ช่างมันชะนีอย่างเราต้องสตรอง ข้ามไปซิค่ะ! จะรออะไรหล่ะ!
เฮ้ย! … ข้ามโบกมาได้ก็เป็นวิวนี้เลยจ้า
สวยมั๊ยยยยยยย???
อยากรู้ว่าเราจะเดินไปได้ไกลถึงไหน อยากสัมผัสความงามของแกรนด์แคนย่อนแห่งนี้ให้ได้มากที่สุด
เย้ยยยย … ต้นไม้ขวาง ทางตัน ไปต่อไม่ได้แล้ว สุดทางรักน้ำตกผาลี่ชะนีมาได้เเค่นี้จ้า
และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเรามาโพสท่าถ่ายรูปกันเถิดจะเกิดผล
แชะ! แชะ! แชะ! แชะๆๆๆๆๆๆ …
ธรรมชาติมักจะสร้างสิ่งที่มนุษย์ตัวเล็กๆอย่างเราไม่มีวันจะทำได้เสมอ … เพราะฉะนั้นเวลาไปเที่ยวที่ไหน ควรไปแบบมีจิตสำนึกนะคะ ไม่ขีดเขียน ไม่ทำลายสิ่งที่ธรรมชาติได้สร้างมาให้เรานะทุกคน!!!
เอาล่ะ … ถ้าใครพร้อมแล้วก็ออกไป “ตะลุยแกรนด์แคนย่อนแห่งใหม่ของอีสาน” กันได้เลย
อ้อ!! อย่าลืมถ่ายรูปมาฝากเราด้วยน๊าาาาาา 😊
IzeRADAH 💚 อำเพ้ออำเภอ
[ เขื่อนลำปาว ] 💚 วันฟ้าใสสุดชิลล์ที่ “กาฬสินธุ์”
อะโลฮาาาาาาาาา ~ วันนี้เรามีเขื่อนยอดฮิตแห่งหนึ่งของ จ.กาฬสินธุ์มาแนะนำให้ทุกคนรู้จักกันด้วยนะ … รอช้าไม่ได้แล้ว ไปค่ะ! 😉
เขื่อนลำปาว ตั้งอยู่ที่ ต.ลำปาว อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ โดยมีบริเวณเขตติดต่อระหว่าง 3 ตำบล ได้แก่
- ต.ลำปาว อ.เมืองกาฬสินธุ์
- ต.หนองบัว อ.หนองกุงศรี
- ต.เว่อ อ.ยางตลาด
เขื่อนลำปาว มีลักษณะเป็นเขื่อนดินสูงจากท้องน้ำ ๓๓ เมตร สันเขื่อนยาว ๗.๘ เมตร กว้าง ๘ เมตร เริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๖ สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๑ รวมใช้เวลาสร้าง 5 ปีค่ะ
เขื่อนลำปาว เป็นเขื่อนสร้างเพื่อกั้นลำน้ำปาวและห้วยยาง ทำให้เกิดอ่างเก็บน้ำแฝดทางด้านเหนือเขื่อน และได้ขุดร่องเชื่อมระหว่างอ่างทั้งสอง สร้างขึ้นเพื่อบรรเทาอุทกภัยและเพื่อการเกษตรโดยเฉพาะเลย เก็บน้ำได้ ๑,๔๓๐ ล้านลูกบาศก์เมตรเลยนะยูววววว
อุ้ย! โหมดสาระผ่านไป ต่อไปก็โหมดตะลุยเขื่อนลำปาวแล้วสินะ … ไปกันเล้ยยยยยยยย!
นี่คืออาคารระบายน้ำล้นของเขื่อนลำปาวแห่งนี้นะยูว์
มาเที่ยวที่นี่ตอนกลางวันอย่าลืมครีมกันแดดด้วยนะยูววววววว … ถึงเราจะเป็นชะนีขาลุยแต่เราจะไม่ยอมเป็นมะเร็งผิวหนังนะเเจ๊ะ! โปะวนไปค่ะลู้กกกกก!
สันเขื่อนสวยๆ
โพสต์ใสๆสไตล์อัยรดา
มองสุดลูกหูลูกตาเลย … ฟิลคือดีมากกกกกกกกกก
ถ้าใครมีโอกาสมาจังหวัดกาฬสินธุ์แห่งนี้เเล้ว ห้ามพลาดการมาชมวิวที่เขื่อนลำปาวกันนะคะ ไม่ได้มาแปลว่าพลาดนะยูววววววววววว 😉
IzeRADAH 💚 อำเพ้ออำเภอ