อัยรดา – IZE RADAH

จังหวัดร้อยเอ็ด ถือได้ว่าเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีขนาดเล็กของภาคอีสาน แต่พอมาสัมผัสจังหวัดนี้จริงๆ ไม่น่าเชื่อเลยว่าที่นี่จะมีแหล่งท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากและมีความหลากหลายขนาดนี้

และในวันนี้เราก็จะพาทุกคนไปชมงานพุทธศิลป์ และไปทำความรู้จักกับองค์พระเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

“พระมหาเจดีย์ศรีชัยมงคล”

จะงดงามและอลังการมากแค่ไหน ตามไปกันเลยยยยยย

อำเภอหนองพอก

เปิดวาร์ปมาหน้าอำเภอ … มันคือแรกสิ่งที่เราต้องทำไปซะแล้ว เพราะที่ว่าการอำเภอเป็นจุดศูนย์กลางของแต่และอำเภอ และนี่ก็คือ “mission ในการเดินทางของอำเพ้ออำเภอ”

การเดินทาง

สถานที่ตั้ง :: ตั้งอยู่ในบริเวณวัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วราราม (วัดผาน้ำย้อย) ที่บ้านโคกกลาง ตำบลผาน้ำย้อย อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด

ลายแทง :: แผนที่ GPS (คลิก) ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 62 กิโลเมตร

เปิดให้เข้าชม :: เปิดทุกวัน เวลา 06.00-17.00 น. (เข้าชมฟรี)

ระหว่างทางที่ขับรถมาจะเห็นองค์พระเจดีย์สูงตระหง่านอยู่บนยอดเขา ซึ่งบอกเลยว่าบางช่วงเป็นทางโค้งสวยมากกกกกก

ประวัติ ” พระมหาเจดีย์ศรีชัยมงคล “

พระมหาเจดีย์ศรีชัยมงคล ตั้งอยู่ในบริเวณวัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วนาราม มีเนื้อที่ 2,500 ไร่ สร้างขึ้นจากศรัทธาของพุทธศาสนิกชน เพื่อเป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า รวมทั้งอัฐิธาตุของเกจิอาจารย์ชื่อดังสายอีสาน และยังเป็นศูนย์กลางในการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานอีกด้วยค่ะ

องค์พระมหาเจดีย์

ศิลปะขององค์พระเจดีย์ ออกแบบโดยกรมศิลปากร ซึ่งเป็นศิลปะร่วมสมัยระหว่างภาคกลางและภาคอีสาน (พระปฐมเจดีย์เป็นโครงสร้างและพื้นผิวเป็นแบบพระธาตุพนม) แต่จะเน้นศิลปะแนวอีสานเป็นหลักนะคะ โดยมีลักษณะเป็นทรง 8 เหลี่ยม ล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็กอีก 8 องค์ มีทั้งหมด 6 ชั้น และยอดเศวตฉัตรส่วนบนสุดเป็นทองคำแท้หนัก 60 กิโลกรัม

องค์พระเจดีย์ มีความกว้าง ความยาวและความสูง 101 เมตร ซึ่งมีความสอดคล้องกับชื่อจังหวัดร้อยเอ็ดด้วย

เดินเล่นรอบวัดกัน

เจ้าหน้าที่บอกว่า ถ้าเป็นวันหยุดต้องจอดรถไว้อีกที่แล้วเดินขึ้นเขามานิดนึงพอได้เหงื่อค่ะ แต่วันนี้โชคดีที่เรามาวันธรรมดา เลยขับรถเข้ามาจอดที่หน้าประตูทางเข้าพระมหาเจดีย์ เลยมีเวลาเดินสำรวจบริเวณรอบๆได้สบายใจเฉิบ ชิลไปอี้กกกกกก

ด้านในเจดีย์

ภายในพระมหาเจดีย์มีทั้งหมด 6 ชั้น โดยเจดีย์ชั้นบนสุดได้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ

ชั้นที่ 1 เป็นห้องโถงกว้างใหญ่ใช้เป็นห้องเอนกประสงค์ และประชุมบำเพ็ญบุญ
ชั้นที่ 2 เป็นศาลาประชุมสงฆ์ ผนังติดตั้งรูปพระพุทธประวัติ
ชั้นที่ 3 เป็นชั้นอุโบสถ และประดิษฐานรูปพระคณาจารย์ปราชญ์อีสานในอดีต เป็นรูปเหมือนสลักหินอ่อน และหุ่นรูปเหมือนพระสุปฏิปันโน 101 องค์
ชั้นที่ 4 เป็นชั้นชมวิว ชมทัศนียภาพรอบภูเขาเขียว
ชั้นที่ 5 เป็นชั้นพิพิธภัณฑ์
ชั้นที่ 6 เป็นชั้นสูงสุดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ